Bookmark and Share

วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประวัติมุน กึน ยอง (Moon Geun-yeong)

มุน กึน ยอง ดารานักแสดงรุ่นใหม่ของเกาหลีที่เป็นที่ยอมรับทางด้านฝีมือการแสดงมาตั้งแต่เธอยังเด็กๆ มุน กึน ยอง เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการแสดงละครโทรทัศน์เรื่อง Potato ของทางสถานีโทรทัศน์ KBS ในปี 1999 แต่ปีที่ทำให้ชื่อของ มุน กึน ยอง เริ่มเป็นที่จดจำของผู้คนทั่วไปก็คือในปี 2000 กับละครโทรทัศน์สุดฮิตของปีนั้นอย่าง Autumn In My Heart โดยในละครเรื่องนี้นั้น มุน กึน ยอง รับบทเป็นอึนโซ (ตอนเด็ก) ด้วยการแสดงที่ดูเป็นธรรมชาติบวกกับบทที่ส่งให้เธอได้แสดงความสามารถทางด้านการแสดงออกมาได้อย่างเต็มที่ จนในที่สุดบทของอึนโซนี้เองที่ทำให้ มุน กึน ยอง ได้รับรางวัลนักแสดงเด็กยอดเยี่ยมประจำปีนั้นไปครอง นอกจากงานทางด้านการแสดงแล้วนั้น มุน กึน ยอง ก็ยังเคยเป็น VJ ให้กับรายการ Eumak Camp ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ MBC อีกด้วย


ปี 2001 มุน กึน ยอง กลับมารับงานละครอีกครั้งในละครเรื่อง Life is Beautiful ของทางสถานีโทรทัศน์ KBS ในละครเรื่องนี้ มุน กึน ยอง จะรับบทเป็น ฮีจอง (ตอนเด็ก) ซึ่งในตอนโตบทนี้จะแสดงโดย Ha Ji-Won และกับละครอีกเรื่องหนึ่งในปีนี้ของเธอ The Lost Empire ของทางสถานีโทรทัศน์ KBS ในละครเรื่องนี้คุณจะได้เห็นมุน กึน ยอง ในบทของเด็กสาวเกาหลียุคโบราณ นอกจากนั้นในปี 2001 มุน กึน ยอง ก็มีโอกาสได้แสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรก ในภาพยนตร์แนวสารคดีเรื่อง On the Way ซึ่งเป็นผลงานการกำกับของผกก. Jae Eun-Choi

ปี 2002 มุน กึน ยอง มีผลงานภาพยนตร์เพียงเรื่องเดียวเท่านั้นคือ Lover's Concerto ในภาพยนตร์เรื่องนี้ มุน กึน ยอง จะรับบทเป็นน้องสาวของ Cha Tae-Hyun ที่เกิดไปตกหลุมรักกับหนุ่มเจ้าของร้านขายหนังสือที่รับบทโดย Kim Nam-Jin

ปี 2003 มุน กึน ยอง กลับมารับงานละครอีกครั้งในละครเรื่อง Wife ซึ่งออกอากาศฉายทางสถานีโทรทัศน์ KBS ในส่วนของภาพยนตร์ มุน กึน ยอง ได้มีโอกาสรับบทนำในภาพยนตร์เป็นครั้งแรกจากเรื่อง A Tale of Two Sisters ของผกก. Kim Jee-Woon (Three , The Foul King , A Quiet Family) ในภาพยนตร์เรื่องนี้ มุน กึน ยอง รับบทเป็น Su-Yeon น้องสาวของ Sumi (Im Su-Jeong) ที่เกิดอาการหวาดกลัวแม่เลี้ยงของเธออย่างมาก จนในที่สุด Su-Yeon ก็หายตัวไปจากบ้านอย่างลึกลับ จากนั้น Sumi จึงออกตามหา Su-Yeon น้องสาวของเธอ และเมื่อ Sumi ค้นพบลอยเลือดซึ่งลากเป็นทางยาวอยู่บนพื้นบ้านไปทางห้องนอนของ Su-Yeon เรื่องราวสุดสยองขวัญของครอบครัวนี้ก็เริ่มต้นขึ้น
ปี 2004 มุน กึน ยอง มีผลงานภาพยนตร์เรื่อง My Little Bride ที่เธอได้ร่วมงานกับ คิม แรวอน เป็นครั้งแรกเข้าฉายในปีนี้ โดยภาพยนตร์เรื่อง My Little Bride จะเป็นเรื่องราวของครอบครัว 2 ครอบครัวที่ พ่อ แม่ ของแต่ละครอบครัว เคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน และได้ให้สัญญาระหว่างกันไว้ว่า ถ้าครอบครัวพวกเขามีลูกเมื่อไหร่ จะให้ลูกๆของพวกเขานั้นแต่งงานกัน เพื่อจะให้ครอบครัว 2 ครอบครัวนี้สนิทกันยิ่งขึ้น ซึ่งบทลูกๆของ 2 ครอบครัวนี้นำแสดงโดย คิม แรวอน และ มุน กึน ยอง แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าลูกๆของพวกเขานั้น ไม่ค่อยถูกชะตากันเท่าที่ควร...
ปี 2005 มุน กึน ยอง กลับมาพร้อมกับผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ Innocent Steps ในบทของนักเต้นรำสาวที่ต้องต่อสู้เพื่อสิ่งที่ฝัน โดยภาพยนตร์เรื่อง Innocent Steps เข้าฉายที่เกาหลีช่วงปลายเดือนเมษายน ล่าสุด มุน กึน ยอง มีโปรเจ็คละครฟอร์มยักษ์กับทาง KBS ถึงสองเรื่อง ปลายปี 2005 มุน กึน ยอง จะมีงานละครเรื่อง Palace ร่วมกับ Jo In Sung , BoA และ Kang Dong Won โดยละครเรื่อง Palace เป็นละครที่ดัดแปลงบทละครมาจากการ์ตูนชื่อดัง

วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประวัติซอง จี โฮ (Song Ji-hyo)

Song Ji-hyo (ซอง จี โฮ) เริ่มเข้าวงการบันเทิงจากการเป็นนางแบบ ให้กับนิตยสาร Kiki ในปี 2001 จากนั้นก็ตามด้วยงานพรีเซ็นเตอร์โฆษณามากมายอาทิ GM DAEWOO , LG Telecom , Shiseido , Natuur , Hite , Daum และ Lotreria

ในปี 2003 เธอได้รับเล่นภาพยนตร์เรื่องแรกกับภาพยนตร์แนวสยองขวัญเรื่อง Wishing Stairs

และในปี 2006 กับผลงานละครเรื่องแรก Princess Hours (Goong) ทางช่อง MBC และถูกนำเข้ามาฉายในประเทศไทยในชื่อว่า เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา โดย ซอง จี โฮ รับบทเป็น มินฮโยริน หญิงสาวที่รักการเต้นบัลเล่ต์เป็นชีวิตจิตใจ จนยอมทิ้งทุกสิ่งแม้กระทั่งความรัก
 
 
 
 
 

วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประวัติลี ดองอุก (Lee Dongwook)

ผลงานแสดงที่ผ่านมา

Heartbreak Library(2009) ...จูนโอ

The Perfect Couple(2008) ...เจฮุค

Arang(2006) ...ฮุนกิ

วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประวัติปาร์ก กอน-อิล (Park Geonil)

กรุ๊ปเลือด บี


การศึกษา มหาวิทยาลัย Dongguk (สาขาศิลปะการแสดง)

งานอดิเรก เขียนเพลง, เล่นกีฬา, ดูหนังฟังเพลง และทำความสะอาด

ความสามารถ ร้องแร๊พ, วาดภาพ, บาสเก็ตบอล, ซ๊อคเกอร์, ว่ายน้ำ, เทควันโด และภาษาอังกฤษ

ผลงาน

- 1 ในสมาชิกวง Supernova

วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Kim Bum profile and photo

ชื่อ :: คิมบอม (ชื่อจริง คิมซังบอม)


วันเกิด :: 7 กรกฎาคม 1989

ส่วนสูง :: 181 ซม

น้ำหนัก :: 66 กก.

การศึกษา :: School of Media entrance ceremonies, Chung Ang University

งานอดิเรก :: ดูหนัง เล่นเกมส์

กีฬา :: ชอบเล่นฟุตบอลมาก ถึงขั้นอยากยึดเป็นอาชีพเลยทีเดียว

อาหารที่ชอบ :: samkyeobsal

สีที่ชอบ :: สีดำ

ดาราคนโปรด :: Hwang Jung-min
Series

2006

서바이벌 스타오디션 (survival star odition)(KBS2)

발칙한 여자들 (Rude Women) (MBC)

Unstoppable High Kick (MBC)

2008 East of Eden (MBC)

Boys Over Flowers / Hana Yori Dango (Korean Ver.)
Movies

2008

I Like It Hot

Gosa 고死 : 피의 중간고사 (Blood mid-terms)

2009

71

비상 (Emergency)
Awards

Mnet 20s Choice Awards รับรางวัลร่วมกันกับคิมเฮซองในสาขา Best Couple จากเรื่อง High Kick

รางวัล popular awards จากซีรีส์เรื่อง East of Eden ช่อง MBC

งาน Korea Darma Fastival Award 2008 (1 Nov,2008) KDF2008

วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประวัติโน อาจู ( No A Joo)

มีพี่สาว 2 คน


การศึกษา มัธยม 6 Sang Gye High School

งานอดิเรก เล่นเปียโน แต่งเพลง เต้น ศิลปะการต่อสู้

- Debut Music Bank ทางสถาสนี KBS 22 กุมภาพันธ์ 2008

ผลงาน
- First Kiss (Release 14 กุมภาพันธ์ 2008)

วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประวัติเรน หรือ จอง จี ฮุน (Jeong Je Hyun / Rain)

จองจีฮุน มีชื่อที่ใช้ในการแสดงว่า บี (Bi) ซึ่งในภาษาเกาหลีแปลว่า "ฝน" ทำให้เขาเป็นที่รู้จักกันในนามนักร้อง นักเต้นว่า "เรน" (Rain)
เรนมีความสามารถโดดเด่นไม่ว่าจะเป็นบทบาทนักร้อง ซึ่งได้รับรางวัลทุกอัลบั้มแล้ว บทบาทแสดงนำจากซีรีส์เรื่องดัง Full House ที่ออกอากาศในบ้านเรา จนดังเป็นพลุแตกไปทั่วเอเชีย

เรนเกิดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2525 สูง 184 cm. น้ำหนัก 74 kg. เลือดกรุ๊ป O ครอบครัวมีพ่อและน้องสาว 1 คน
ตอนเด็กครอบครัวมีปัญหาพ่อล้มละลาย เรนต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ แม่ที่ดูแลบ้านคนเดียวก็หนีไปตอนที่เขาเข้าวงการบันเทิง ซึ่งตอนนี้นเรนแสดงเป็นตัวประกอบตลอด จนกระทั่งเป็นแดนเซอร์ เรนฝึกซ้อมอย่างหนักบนเวทีเต้นรำที่โรงเรียน ในสายตาเพื่อนร่วมชั้น เรนเป็นคนที่ดูโดดเด่นมาก
เรนเคยให้สัมภาษณ์ว่าเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด แต่ถ้าอยู่กับเพื่อนที่สนิทจะซนๆ อยู่บ้าง ผู้หญิงในสเปคต้องทำกับข้าวเก่ง อบอุ่น ใจดี แล้วก็ทำให้สบายใจ ส่วนผู้หญิงยี้คือคนที่ทำท่าว่าฉันสวยทั้งๆ ที่จริงไม่สวย
เป็นนักบาสเกตบอลโรงเรียน เรียนเทควันโด แถมยังชอบว่ายน้ำ ปัจจุบันเป็นนักศึกษาวิทยาลัย Kyung Hee วิชาเอกศิลปะดนตรีสากล สำหรับแนวดนตรีที่ชอบเป็นพิเศษคืออาร์แอนด์บี ฮิพฮอพ และฟังกี้ ชอบสีแดง-ดำ ศิลปินชื่นชอบ เจเน็ต และไมเคิล แจ็คสัน อัชเชอร์ และปาร์ก จิน ยัง ฤดูโปรดคือฤดูหนาว ยิ่งถ้าหิมะตกล่ะก็ เรนจะต้องออกไปเล่นสโนว์บอร์ด เพราะคลั่งกีฬาชนิดนี้เป็นชีวิตจิตใจ

พรสวรรค์คือการแสดง เต้นรำ งานอดิเรก ฟังเพลง ดูหนัง สะสมรองเท้าและเสื้อผ้า เรนชอบดูหนังฮ่องกงมาก โดยเฉพาะหนังตลกของโจวซิงฉือ นอกจากนี้ ยังชอบเข้าห้องสมุด หรือร้านหนังสือเพื่อติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแฟชั่น เรื่องนี้เจ้าตัวเผยเองว่านอกจากดนตรีแล้ว ก็มีแฟชั่นนี่แหละที่ชื่นชอบเอามากๆ ในห้องนอนของเรนจะเต็มไปด้วยนิตยสารแฟชั่นและตู้เสื้อผ้าวางเรียงกันจนแน่นห้องไปหมด แต่ปกติเขาชอบแต่งตัวสบายๆ เน้นเสื้อยืดกางเกงยีน
ก่อนหน้านี้แฟนๆ ไม่ค่อยรู้จักเรนเท่าใดนัก เรียกชื่อเขาชื่อซิงเกิ้ลแรกว่า Bad Guy จากนั้นจึงค่อยมีการเปิดเผยชื่อจริง สำหรับอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกของจีฮุนที่มีชื่อว่า บี-Bi สังกัด JYP เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ เพลงส่วนใหญ่เป็นแนวแดนซ์ ดนตรีที่เร้าใจ บวกเสียงร้องและลีลาเต้นด้วยรูปร่างที่แฟนๆ ชมเปาะว่าเซ็กซี่เป็นที่สุด และเรียกขานเขาว่า บี มากกว่าที่จะเรียกชื่อจริงว่าจีฮุน อัลบั้มต่อมาออกในนามเรน (Rain) ชื่อบีถูกแทนที่ด้วยเรนซึ่งโด่งดังนักหนา ก่อนตามด้วยอัลบั้มชุดที่ 3 คือ It's Raining

ด้านการแสดง ผลงานของเรนเริ่มจากซิทคอม Orange ปี 2545 ต่อด้วย Sangdoo, Let"s Go To School ในปีเดียวกัน และกระหึ่มใน สะดุดรักที่พักใจ หรือ Full House กับนางเอก ซอง เฮเคียว ปี 2004 ซึ่งขยายชื่อเสียงของทั้งคู่ไปทั่วเอเชีย ส่วนผลงานเรื่องใหม่คือ A Love To Kill หรือ This Detestable Love ของสถานีเคบีเอสเช่นเดิม คู่กับนางเอก ชินมินอา

ศิลปินคนโปรดของเรน มี 2 คนคือ ไมเคิล แจ็คสัน และ เจเน็ท แจ้คสัน

วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประวัติจอง ซูยอน (Jung Soo Yeon or Jesiga)


ผลงานปัจจุบัน

- สมาชิกวง Girls' Generation หรือ So Nyeo Shi Dae (SNSD)

- ตำแหน่ง นักร้องเสียงหลัก

- กรุ๊ปเลือด B

- ความสามารถพิเศษ : ภาษาอังกฤษ ร้องเพลง เต้น

วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประวัติคิม แทยอน (Kim Tae Yeon)

แทยอน เป็นสมาชิกที่อายุมากที่สุดของ Girls Generation ปัจจุบันเธอเป็นดีเจของรายการวิทยุ “ชินฮันชินกู หรือ Good Friend Radio” ร่วมกับคังอินสมาชิกของวง Super Junior และเธอยังเป็นสมาชิกคนแรกของวงได้ร้องเพลงเดี่ยวในเพลง "If" เพลงประกอบละคร "Hong Gil Dong" แทยอนได้ร่วมงานกับ ลีพอลในมิวสิควีดีโอที่มีชื่อว่า “Forever” และยังได้ร้องเพลง "Can/Do You Hear me...?" ในเพลงประกอบละคร "Beethoven Virus" และเธอได้รับรางวัล YEPP Popularity Award จากเพลงนี้อีกด้วย

ชื่อที่ใช้ในการแสดง : แทยอน(ภาษาเกาหลี, ภาษาจีน)

ชื่อจริง : คิมแทยอน(ภาษาเกาหลี, ภาษาจีน)

ความหมายของชื่อ (เฉพาะชื่อ) : "ความงามที่สูงส่ง"

ฉายา : แตแต, แตแด๊ก, ออมม่า, อาจุมม่า, คิด ลีดเดอร์ (หัวหน้าเด็ก),

แทงกู, เอริก้า (ชื่อนี้เคยเขียนไว้ตอนยังเป็นเด็กฝึกหัด)

วันเกิด : 9 มีนาคม 1989

ความสูง : 162 ซ.ม. น้ำหนัก : 45 กก.

เลือดกรุ๊ป : โอ

พี่น้อง : พี่ชายชื่อจีอุงและน้องสาวฮเย-ยอน

บ้านเกิด : เมืองชอนจู จังหวัดชอนรา

ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลง เต้น

ภาษาที่พูดได้ : เกาหลี (ดีเยี่ยม) อังกฤษ จีนและญี่ปุ่น (ได้พื้นฐานนิดหน่อย)

คติประจำใจ : อย่าทำอะไรที่จะทำให้เสียใจในภายหลัง

การศึกษา : โรงเรียนศิลปะชอนจู

ตำแหน่งในวง : หัวหน้าวง ร้องนำ

การเข้าสู่วงการ : การประกวดร้องเพลงครั้งที่ 8 ของ SM Academy ปี 2004 (ได้รางวัลชนะเลิศด้านการร้องเพลงและ Grand Award)

ระยะเวลาในการเป็นเด็กฝึกหัด : 3 ปี

แฟนคาเฟ่ http://cafe.daum.net/KTY612 [SMART]
ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวกับแทยอน
เลขโปรด : 3, 6, 9, 22

ชายหนุ่มในสเป็ค : Kang Dongwon

เพลงโปรดจากอัลบั้มแรก : Merry-Go-Round

กีฬาที่ชื่นชอบ :ว่ายน้ำ

งานอดิเรกและความสนใจพิเศษ : เครื่องสำอาง น้ำหอม เพลง

การ์ตูนที่ชอบ : ดราก้อนบอล (ตัวที่ชอบที่สุด คือ Vegeta)

นิสัยแปลกๆ : ต้องจดบันทึกสิ่งที่ต้องทำ ชอบพูดเรื่อยๆ ไม่หยุด

หลับได้ทั้งๆ ที่ลืมตาและอยู่ในท่าแบบโยคะ

ข้อเสีย : จำอะไรไม่ค่อยได้อย่างมาก ความจำแย่

รูมเมท : ยุนอา ซูยอง

รูมเมทตอนเป็นเด็กฝึกหัด : ทิฟฟานี่ จางรี่อิน

วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประวัติลี ดงเฮ (Lee Donghae)


ชื่อจริง : Lee Dong Hae (ลี ดงแฮ)

อาชีพ : นักร้อง นักเต้น นักแสดง

น้ำหนัก : 60 กิโลกรัม

กรุ๊ปเลือด : A

งานอดิเรก : ร้องเพลง, เต้นรำ , ออกกำลังกาย, ดูหนัง

ความสามารถพิเศษ : ร้องแร็พ

เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง : ปี 2001 โดยชนะเลิศสาขา Most handsome และ

Best of the best ในการประกวด SM Youngster contest

ผลงานภาพยนตร์ : Attack On The Pin-Up (2007)
ผลงานอื่นๆ : หนึงในสมาชิกวง Super Junior และเป็นหนึ่งในสมาชิกยูนิต Super Junior - M

แสดงในมิวสิควีดีโอเพลง Kissing U ของ "Girls Generation" (2008)

แสดงในมิวสิควีดีโอเพลง Key of Heart (เวอร์ชั่นเกาหลี) ของ "BoA"

SBS Shin Dong Yup's "True or Lie" (พย.2005)

พิธีกรคู่กับ ซอง มิน ในรายการของ KMTV

ผลงานโฆษณา : 12 พลัสโรลลอน (2008)

วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประวัติฮา จี-วอน (Ha Ji-won)

ฮา จี-วอน เป็นนักแสดงที่ได้รับความนิยมทั้งจากงานละครโทรทัศน์และงานภาพยนตร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากในนักแสดงเกาหลีรุ่นเดียวกัน ฮา จี-วอน เป็นผู้หญิงที่มีทั้งความสวย และ ความเซ็กซี่ ที่หลอมรวมอยู่ในตัวของเธอได้อย่างลงตัว เธอรักการแสดงที่ทำสำคัญเธอรักการร้องเพลงและการเต้นเป็นชีวิตจิตใจ เรื่องสุขภาพถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเธอ เวลาว่างเธอมักจะหาเวลามาออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ และการเต้นแจสแดนซ์ ฮา จี-วอน มีผลงานชิ้นแรกจากการเป็นนักแสดงสมทบในละครเรื่อง Shin Sae Dae Bo Go ซึ่งตอนที่เธอเล่นนั้นจะอยู่ในตอนที่ 100 ของละครเรื่องนี้ หลังจากนั้นเธอก็มีงานละครออกตามมาอีกสองเรื่องด้วยกันคือละครเรื่อง Dragons Tears และ Love Thats Bigger Than Love

ปี 2000 เป็นปีที่คนส่วนใหญ่เริ่มได้รู้จักนักแสดงสาวหน้าใหม่ที่ใช้ชื่อว่า ฮา จี-วอน โดยเธอเริ่มงานในปีนี้ตัวการเป็นหนึ่งในนักแสดงของละครวัยรุ่นภาคต่อสุดฮิตเรื่อง School 2 ก่อนที่จะมารับงานละครในบทนำเป็นครั้งแรกในจากละครเรื่อง Sunshine Hunting โดยเธอรับบทเป็น Park Tae-Kyong นอกจากผลงานละครแล้วในปีนี้ผลงานภาพยนตร์ของเธอก็โดดเด่นไม่เป็นรองใครเช่นกัน เพราะเธอมีงานภาพยนตร์เข้ามาถึง 3 เรื่องในปีเดียว ภาพยนตร์เรื่องแรกของ ฮา จี-วอน คือ The Truth Game ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญแห่งปี ตามมาด้วยภาพยนตร์สยองขวัญที่รวมดาราวัยรุ่นเอาไว้มากมายใน A Nightmare ปิดท้ายปีด้วยภาพยนตร์ที่ทำให้ ฮา จี-วอน ได้รับรางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมประจำปีจากงานประกาศผลรางวัล 21st Chongryong Film Festival ในภาพยนตร์เรื่อง Ditto โดย ฮา จี-วอน รับบทเป็น Hyeon-Ji แฟนสาวของ Ji-In ซึ่งรับบทโดย Yoo Ji-Tae

ปี 2001 ฮา จี-วอน มีเพียงผลงานละครเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นคือละครเรื่อง Life is Beautiful ซึ่งออกอากาศฉายทางสถานีโทรทัศน์ KBS โดย ฮา จี-วอน รับบทเป็น Hee-Jung ลูกสาวคนเล็กของผู้จัดการโรงแรม ซึ่งเรียนการจัดการโรงแรมมาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีอดีตฝังใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่แฟนหนุ่มคนแรกของเธอต้องเสียชีวิตลงหลังจากที่ช่วยเหลือเธอจากการจมน้ำ ปี 2002 ฮา จี-วอน กลับมารับงานภาพยนตร์อีกครั้งในภาพยนตร์สยองขวัญทำเงินแห่งปี 2002 เรื่อง Phone โดย ฮา จี-วอน รับบทเป็น จี-วอน นักข่าวประจำนิตยสารฉบับหนึ่ง ที่พยายามสืบหาต้นเหตุการตายอย่างลึกลับของเพื่อนเธอ โดยอาศัยโทรศัพท์ของผู้ตายเป็นเบาะแส และพยายามสืบหาหมายเลขโทรศัพท์ของคนที่โทรเข้ามา เหตุการณ์เริ่มวุ่นวายขึ้นเมื่อเธอพบว่าหมายเลขของคนที่โทรเข้ามานั้นไม่มีผู้ใช้มานานแล้ว จนเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์สุดสยองที่เกินกว่าจะคาดเดา ปลายปี 2002 ฮา จี-วอน ตอกย้ำความแรงของเธอด้วยภาพยนตร์ตลก สุดทะลึ่ง เรื่อง Sex is Zero โดย ฮา จี-วอน รับบทเป็น Eun Hyo สาวสวยชมรมแอโรบิค ซึ่งเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆในมหาวิทยาลัย



ปี 2003 ฮา จี-วอน เริ่มต้นผลงานในปีนี้ด้วยการออกอัลบั้มเพลงชุดแรกในชีวิตโดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า Ha Ji Won - Home Run เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2003 ซึ่งเพลงซิงเกิ้ลแรก "I love you" ก็ยังเป็นเพลงที่ใช้ประกอบในภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเธอ Reversal of Fortune อีกด้วย หลังจากอัลบั้มเพลงชุดแรกออกมาได้ไม่นานนักภาพยนตร์เรื่อง Reversal of Fortune ก็เข้าฉายที่เกาหลีตามมาติดๆ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ฮา จี-วอน รับบทเป็น Ji-Young สาวสวยสุดเซ็กซี่ ซึ่งเป็นภรรยาแสนสวยของ Seung-Wan (รับบทโดย Kim Seung-Wu) โปรกอล์ฟ ชื่อดังของเกาหลี ที่ไม่เคยเอาใจใส่ภรรยาของตนเอง หลังจากนั้นช่วงปลายปี ฮา จี-วอน ก็มีงานละครย้อนยุคสุดฮิตของเกาหลี Damo ซึ่งก็กวาดเรทติ้งไปได้อย่างงดงามเมื่อตอนที่ออกฉาย ในละครเรื่องนี้ ฮา จี-วอน รับบทเป็น Chae-Ok

ปี 2004 ฮา จี-วอน กลับมารับงานภาพยนตร์อีกครั้งในภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายอินเตอร์เน็ตสุดฮิตเรื่อง 100 Days with Mr. Arrogant นอกจาก ฮา จี-วอน จะสลัดมาดเก่าๆออกไปอย่างที่คุณไม่เคยเห็นในหนังหรือละครเรื่องไหนมาก่อนแล้วนั้น นี่ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เธอได้ร่วมงานกับพระเอกขวัญใจสาวๆอย่าง Kim Jae-Won อีกด้วย โดยภาพยนตร์เรื่อง 100 Days with Mr. Arrogant เป็นภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องของ Ha Young (รับบทโดย ฮา จี-วอน) สาวแสบแห่งโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง ที่ตัดสินใจเลิกกับแฟนของเธออย่างเด็ดขาดในวันครบรอบ 100 วัน ที่เธอได้คบกับแฟนของเธอคนนี้ ด้วยความโมโห Ha Young จึงเตะกระป๋องนํ้าอัดลมที่วางอยู่บนพื้น ผลปรากฎว่ากระป๋องใบนั้นปลิวออกไปกลางถนน และไปถูกรถยนตร์คันหรูที่เพิ่งถอยออกมาใหม่ของเด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยที่ชื่อ Hyung Yoon (รับบทโดย Kim Jae-Won) หลังจากนั้น Hyung Yoon จึงลงมาจากรถพร้อมกลับตรงเข้ามาหา Ha Young เพื่อเรียกค่าเสียหายในราคา 3,000 เหรียญ แต่ Ha Young ยังไม่มีเงินที่มากขนาดนั้น เธอเลยตั้งข้อเสนอที่ว่าเธอจะใช้เงินคืนเขาวันละ 30 เหรียญ เป็นเวลา 100 วัน ก็จะครบ 3,000 เหรียญ นอกจากงานภาพยนตร์แล้วนั้น ปีนี้ ฮา จี-วอน ก็มีงานละครเรื่องใหม่เช่นกันในละครที่มีชื่อว่า What happened in Bali ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ SBS ในละครเรื่องนี้ ฮา จี-วอน รับบทเป็นไกด์สาวชาวเกาหลี กลางปีเดียวกัน ฮา จี-วอน มีผลงานภาพยนตร์เรื่อง Love So Divine ร่วมกับ Kwon Sang-Woo ในภาพยนตร์เรื่องนี้เธอรับบทเป็น Bong Hie สาวซ่าส์แต่นิสัยดีที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากอเมริกาเพื่อตามหาชายอันเป็นที่รักในเกาหลี และในตอนนี้เองที่ทำให้เธอได้พบกับ Gyu Shik (รับบทโดย Kwon Sang-Woo) บาทหลวงจอมสะเพร่าที่โดนลงโทษให้มาประจำโบสถ์ในชนบท จนกว่าจิตใจของเขาจะแข็งเกร่งขึ้นพอที่จะเป็นพระที่ดีได้ แต่แล้วเมื่อเขาและเธอมาพบกัน คนทั้งคู่ก็ก่อเกิดความผูกผันจนกลายไปเป็นความรักที่ต้องห้าม ซึ่งถูกขวางกั้นเอาไว้ด้วยกฎเกณฑ์ข้อบังคับทางศาสนาทำให้เขาและเธอไม่อาจที่จะรักกันได้ หลังจากนั้นในช่วงปลายปีเดียวกัน ภาพยนตร์เรื่องที่สามของ ฮา จี-วอน ในปีนี้ Daddy-Long-Legs ก็เข้าฉายที่เกาหลี ในภาพยนตร์เรื่องนี้เธอได้ร่วมแสดงกับ Yun Jung-Hoon และ Hyun Bin

ล่าสุด ฮา จี-วอน กำลังมีผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ Duelist ร่วมกับ Kang Dong-Won และ Ahn Sung-Ki โดยในภาพยนตร์เรื่องนี้เธอจะได้รับบทเป็นนักสืบสาวที่ต้องออกตามล่าหัวขโมยตัวฉกาจที่ออกปล้นในเขตโชซัน Duelist มีกำหนดเปิดกล้องเดือนพฤศจิกายนนี้ และพร้อมออกฉายช่วงเดือนสิงหาคมปี 2005

วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติลี จินกิ (Lee Jinki)


หมู่เลือด : โอ

การศึกษา :Kwanmyong Information Industry Hig School

ผลงานก่อนเดบิว : SM Academy Vocal Casting

นิสัยของตัวเอง: "อนยู" ตามชื่อผมเลยครับ (อนยู แปลว่า "นุ่มนวล หรือ อ่อนโยน")

ความสนใจและงานอดิเรก : ร้องเพลง เปียโน ภาษาจีน

เวลาที่คิดว่าตัวเองดูเท่ห์: เวลาที่เล่นเปียนโนไป ร้องเพลงไป

ส่วนของร่างกายที่ชอบมากที่สุด: ขนตา

แฟชั่นแบบที่ชอบ: เสื้อยืด กางเกงยีนส์

เดบิวส์ : ตอนอยู่ชั้นประถม คุณแม่เคยพูดว่า "อยากลองเป็นนักร้องดูมั้ย?" และเพื่อนๆก็เคยพูดแบบนั้นด้วย แต่ตอนนั้นด้วยความที่เป็นคนขี้อายเลยคิดว่าตัวเองทำไม่ได้แน่ๆ ตอนมัธยมปี 4 อยู่ก็อยากที่จะเอาดีทางด้านดนตรีขึ้นมาจริงๆจังๆ ทำให้สมัครเข้ามาฝึกฝนกับ SM Entertainment Academy และได้รับเลือกในปี 2006 ซึ่งเขาเคยอยากเข้ามหาวิทยาลัยทางดนตรีด้วยเหมือนกัน

ศิลปินที่ชอบ : เอริก เบเนต ,Stevie Wonder ,John Legend (นักร้องในแนวอาร์แอนด์บี)

( เป็นนักร้องชาวอเมริกัน ซึ่งตาบอดค่ะ ) เขาชอบน้ำเสียงสบายๆของเอรีก และชอบท่าทางที่สนุกไปกับดนตรีของสตีวี่วันเดอร์มากๆ

ความฝัน : การได้เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียง และ ทำเพลงที่สามารถฟังได้ทุกวัย

วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติชอย มินโฮ ( Choi Minho )


ความสนใจและงานอดิเรก : ฟุตบอล, บาสเก็ตบอล ,การแสดง, ภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน


ผลงานก่อนเดบิว

เดินแบบในงาน '2008/09 F/W Pret-a-Porter Busan'

'โซลคอปเพอเรชั่น F/W 08-09' (ดีไซน์เนอร์-ฮาซังแบก)

วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติ ปาร์ค กยูริ (Park Gyuri)

ผลงานปัจจุบัน

- สมาชิกวง Kara

- กรุ๊ปเลือด AB

- การศึกษา Dongduk Woman's University

วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติฮัน ซึงยอน (Han Seung Yeon)

ผลงานปัจจุบัน


- สมาชิกวง Kara

- กรุ๊ปเลือด A

- การศึกษา Kyunghee University สาขา Theater&Film

วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติ ชอง นิโคล (Jung Nicole)

ผลงานปัจจุบัน


- สมาชิกวง Kara

- กรุ๊ปเลือด A

- การศึกษา Laurelsprings School

วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติ กู ฮารา (Koo Ha Ra)

ผลงานปัจจุบัน


- สมาชิกวง Kara

- กรุ๊ปเลือด B

- การศึกษา DongMyung Girls High School

วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติ อก แทคยอน (Oak TaekYeon)


ชื่อ อก แทคยอน (เกาหลี: 옥택연; อังกฤษ: Ok Taekyeon )


เกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2531

ชื่อในวงการ : อก เทคยอน, อก เท คยอน ,แท คยอน

ชื่อเล่น : Ok Teakbal, Him Teakyeon, Rijamong (องุ่น)

ศาสนา : คริสต์

ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะบริหาร มหาวิทยาลัยดันกุก สามารถพูดได้ทั้งภาษาจีนและอังกฤษได้รับฉายา Wonder Girls เวอร์ชันผู้ชาย สาเหตุเพราะว่า เคยถ่ายทำโฆษณาไอศกรีมร่วมกับวง Wonder Girls

นอกจากนี้ยังมีผลงานในรายการ Super Star Survival ปี 2006 ทางช่อง SBS และ XTM (Best Contest I)

ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ลำดับที่ 73 super 100 my boy friend และลำดับที่ 53 จากการจัดอันดับ super 100 pop idols 2009 [4]

ตำแหน่งในวง 2PM : แรพที่สอง,เต้น

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติ ปาร์ค เจบอม (Park Jae beom)


ชื่อจริง : ปาร์ค แจบอม (เกาหลี: 박재범; อังกฤษ: Park Jaebum )


ชื่ออังกฤษ : เจย์ ปาร์ค (อังกฤษ: Jay Park )

วันเกิด : 25 เมษายน พ.ศ. 2530 (อายุ 23 ปี)

ตำแหน่งในวง : หัวหน้าวง (Leader),ร้องนำ(Main Vocalist),แรพ (Rapper)

วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติ จาง อูยอง (Jang Wooyoung)


การศึกษา Seoul School For The Arts - Dance Major


ผลงาน

- 1 ในสมาชิกวง 2PM

วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติ ฮวาง ชานซอง (Hwang Chansung)



ฮวาง ชานซอง (เกาหลี: 황찬성;อังกฤษ: Hwang Chansung)เกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2533 มีอายุน้อยที่สุดในวงจึงถูกเรียกว่ามักเน่ (แปลว่าน้องเล็ก) แต่ก็เป็นน้องเล็กที่ตัวโตที่สุดในบรรดาน้องเล็กของวงบอยแบนด์เกาหลีใต้ นับถือศาสนาพุทธ เข้าวงการด้วยการเป็นนักแสดง นายแบบ เล่นโฆษณา ชานซองมีชื่อเล่นว่า fairy, phwang-ka มีส่วนสูง 184 เซนติเมตร น้ำหนัก 72 กิโลกรัม จบการศึกษาระดับมัธยมปลายจากโรงเรียนฮันกุกเยซุล (Korean Art High School) ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 (พ.ศ. 2552) มหาวิทยาลัยโฮวอน คณะ Boardcasting & Entertainment พูดภาษาภาษาจีน นอกจากนั้นยังมีความสามารถในด้านกีฬาเทควันโดและฟันดาบด้วย อยู่ในวงจะได้รับการร้องท่อนแรพและท่อนกลางของเพลง
ก่อนเดบิวต์เป็นสมาชิกวงทูพีเอ็มเคยแสดงละครซิทคอมของเกาหลีที่มีเรตติ้งสูงมาก เรื่อง Unstoppable High Kick และเคยเข้าร่วมแข่งขันการออดิชั่น Superstar Survival ปี 2006 พร้อมกับเพื่อนร่วมวงอย่างจุนโฮและแทคยอน แต่ก็แพ้ ซึ่งเขาเคยออดิชั่นถึสองครั้งแล้วจึงได้รับการยอมรับจากบริษัท

ตำแหน่งในวง : ร้อง (Vocalist),แรพ(Rapper)

วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติ ซง ซึงฮยอน (Song Seung Hyun)


Name :: ซงซึงฮยอน (송승현 : Song Seung Hyun)

Birth :: 21 August, 1992

High&Weight :: 180 cm , 60kg
Skill :: 사차차리
Blood Type :: O
Position :: Guitar & Vocal

วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติ ลี แจจิน ( Lee Jae Jin )

กรุ๊ปเลือด: A


น้ำหนัก: 58 กิโลกรัม

โรงเรียน: ปีหนึ่ง SunYoo High School (ม.4)

งานอดิเรก: เซิร์ฟเนต, ถามคำถามอาจารย์สอนดนตรี & อาบแดด

ครอบครัว: พ่อแม่, พี่สาว, JaeJin

ความสามารถพิเศษ: เบส, ฟังเพลง

ตำแหน่งในวง: มือเบส

สิ่งที่ชอบ: เงิน...อาหาร....ดนตรี?

คติ: ทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด!

ถึงคนรักในอนาคต: Saranghae

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติ ลี ฮองกี (Lee Hong Ki)

โรงเรียน: ปีสอง SungJiGo School (ม.5)

งานอดิเรก: ร้องเพลง, ฟังเพลง, ฟุตบอล, เกมส์ (บอร์ด&อินเตอร์เนต), ทำอาหาร

ครอบครัว: พ่อแม่, น้องสาว, HongKi

ความสามารถพิเศษ: ร้องเพลง, ฟุตบอล

วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติ ชอย มินฮวาน (Choi Min Hwan)

กรุ๊ปเลือด : A


อาชีพ : นักแสดงและนักร้อง

ครอบครัว : น้องสาว Minhwan

การศึกษา : Eunil Information Industry High School (은일정보산업고등학교)

ความสามารถพิเศษ : ตีกลอง
ผลงาน

ละคร: The Road Home (KBS1, 2009)

วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติ ชอย จอง ฮุน (Choi Jong Hun)


กรุ๊ปเลือด: A แต่ผมไม่ใช่พวกเห็นแก่ตัวนะ ส่วนใหญ่เค้าบอกว่าคนกรุ๊ป B เป็นแบบนั้น


น้ำหนัก: 60 กิโลกรัม

โรงเรียน: ปีสอง ShinDongShinJung BoSan School

งานอดิเรก: เขียนเพลง, อินเตอร์เนต

ครอบครัว: พ่อแม่, JongHun (เป็นลูกคนเดียวนั่นเอง)

ความสามารถพิเศษ: เปียโน

ตำแหน่งในวง: หัวหน้าวง เหมือนจะเป็นหน้าที่ที่ยากนะ ใช่มั้ย?

สิ่งที่ชอบ: อาหาร?? แหะๆ~ & ดนตรี - ที่รัก

คติ: คิดและทำ (มุ่งหน้าไป) ผมไม่ค่อยมั่นใจนะ ขอโทษ

ถึงคนรักในอนาคต: ผมจะซื้อของให้คุณ ได้มั้ย? คุณอยากได้อะไร?

ประวัติคัง จียอง (Kang Ji Young)

- สมาชิกวง Kara


- กรุ๊ปเลือด O

- การศึกษา Kwanghee Middle School

วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติ นัม ซังมี

ปร
Nam Sang-Mi เริ่มต้นเป็นที่รู้จักของคนทั่วๆไปจากงานโฆษณาที่มีออกมาแล้วมากมายอาทิเช่น Fanta , Whisper , Samik , Hyundai และ Innisfree นอกจากนั้นก็ยังเคยรับงานมิวสิกวีดีโอให้กับ Shin Seung Hoon ในเพลง Christmas Miracle หลังจากนั้น Nam Sang-Mi ก็เริ่มต้นรับงานแสดงเป็นครั้งแรกในปี 003 จากละครเรื่อง Love Letter ทางสถานีโทรทัศน์ MBC และละครเรื่อง The Escape From Unemployment ทางสถานีโทรทัศน์ SBS แต่บทที่เธอได้รับนั้นเป็นเพียงบทสมทบเล็กๆ เลยยังไม่ทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงที่น่าจดจำเท่าใดนัก
จนกระทั่งในปี 2004 Nam Sang-Mi มีภาพยนตร์เข้าฉายทั้งสิ้น 3 เรื่อง และภาพยนตร์ทั้งสามเรื่องนี้เองที่ทำให้ชื่อของเธอกลายเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่มีผลงานแสดงโดดเด่นมากที่สุดอีกคนหนึ่งในปีนี้ เรื่องแรก Spy Girl ที่เล่าเรื่องของสายลับสาวจากเกาหลีเหนือที่เข้ามาสืบราชการลับที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยเธอได้ปลอมตัวเป็นสาวเสิร์ฟในร้านแฮมเบอร์เกอร์แห่งหนึ่ง แต่ก็เกิดปัญขึ้นเมื่อหนุ่มที่คลั่งไคล้เธอนำรูปของเธอไปเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต จนเธอต้องจัดการกับปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ก่อนที่อีกฝ่ายหนึ่งจะรู้ฐานะที่แท้จริงของเธอ เรื่องที่ 2 Too Beautiful to Lie ในภาพยนตร์เรื่องนี้ Nam Sang-Mi รับบทเป็นนักศึกษาแพทย์คู่หมั้นสาวตัวจริงของ Young Joo (รับบทโดย Kang Dong-Won) ที่ถูกสวมลอยโดยคู่หมั้นตัวปลอมอย่าง Hee Chul (รับบทโดย Kim Ha-Neul) สาวสวยนักต้มตุ้นมืออาชีพที่เพิ่งถูกปล่อยตัวออกจากคุกมา เรื่องที่ 3 Dead Friend ภาพยนตร์แนวสยองขวัญเรื่องแรกของเธอ ในเรื่องนี้ Nam Sang-Mi รับบทเป็น Soo In เด็กนักเรียนชั้นมัธยมขี้แพ้ที่ไม่มีเพื่อนคนไหนในโรงเรียนอยากคบเธอเป็นเพื่อน จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้รู้จักกับ Ji Won (รับบทโดย Kim Ha-Neul) เด็กนักเรียนสุดป๊อบของโรงเรียน Soo In พยายามทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีต่อ Ji Won แต่สิ่งที่เธอได้รับนั้นกลับกลายจุดเริ่มต้นของความสยองขวัญที่ใครๆก็คาดไม่ถึง นอกจากนั้นในปีนี้ Nam Sang-Mi ก็ยังมีงานละครซิทคอมแนวตลกเรื่อง Not Alone ซึ่งออกฉายทางสถานีโทรทัศน์ SBS ช่วงกลางปี

ล่าสุด Nam Sang-Mi กำลังมีผลงานภาพยนตร์แอ๊กชั่น คอมเมดี้เรื่องใหม่ She's On Duty ร่วมกับ Kim Seon-A และ Kong Yu โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดเข้าฉายช่วงมีนาคมปี 2005 นอกจากนั้น Nam Sang-Mi ก็กำลังมีงานละครเรื่องใหม่ร่วมกับ Lee Bo-Young และ Jung Kyung-Ho ในละครเรื่อง My Sweet Heart โดยจะออกฉายที่เกาหลีทางสถานีโทรทัศน์ KBS ในเดือนกุมภาพันธ์นี้

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติ Jeon Ji Hyun (จวน จี ฮุน)

Jeon Ji-Hyun เกิดเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ปีค.ศ.1981 เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Don-Guk ในสาขาการแสดงและสื่อสารมวลชน ด้วยวัยเพียง 17 ปี สาวน้อยนามว่า Jeon Ji-Hyun เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นนางแบบ ในช่วงนั้นเธอรับเล่นโฆษณาหลายต่อหลายชิ้น

จนในที่สุดโอกาสแรกที่เธอจะได้พิสูจน์ฝีมือทางด้านการแสดงก็เริ่มต้นขึ้น กับบทรับเชิญเล็กๆในละครเรื่อง Fascinate My Heart ซึ่งออกอากาศที่เกาหลีใต้ครั้งแรกเมื่อปี 1998 ทางสถานีโทรทัศน์ SBS แต่ดูเหมือนว่าละครเรื่องนี้นั้น ยังไม่สามารถทำให้เธอเป็นที่จดจำมากเท่าใดนัก

ในปี 1999 Jeon Ji-Hyun มีโอกาสได้รับบทนำครั้งแรกจากละครเรื่อง Happy Together ซึ่งเธอได้มีโอกาสแสดงร่วมกับนักแสดงชื่อดังของเกาหลีอย่าง Lee Byung-Hun และ Song Seung-Hun ในปีนี้เองที่ทำให้เธอเริ่มเข้าสู่วงการภาพยนตร์ในบทของสาวน้อยใสๆจากเรื่อง White Valentine ของผู้กำกับ Yang Yun-Ho แม้ว่าในปีนี้ภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอจะเปิดตัวได้ไม่สวยนัก แต่ละครเรื่อง Happy Together กลับได้รับคำชมไปไม่น้อยเลยทีเดียว

จนกระทั่งในปี 2000 เธอได้มีโอกาสเล่นโฆษณาเครื่องเสียงยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งโฆษณาชิ้นนี้เองทำให้เธอเป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมากในบรรดาวัยรุ่นเกาหลีตอนปลาย และเริ่มทำให้ใครหลายคนหันมาสนใจในตัวเธอกันมากขึ้น ความแรงของเธอในปีนี้กลับไม่หยุดอยู่แค่นั้น ในช่วงปลายปีเดียวกันผลงานภาพยนตร์เรื่องที่สองของเธอ Il Mare ที่เธอได้มีโอกาสร่วมแสดงกับ Lee Jeong-Jae ในผลงานการกำกับของ Lee Hyeon-Seung นั้น ทำให้เธอเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้น ในฐานะนักแสดงรุ่นใหม่ฝีมือดีอีกคนหนึ่งของวงการภาพยนตร์เกาหลี

ปี 2001 นี้เองคือปีที่ทำให้ Jeon Ji-Hyun กลายเป็นนางเอกอันดับหนึ่งของเกาหลี จากผลงานภาพยนตร์เรื่อง My Sassy Girl ของผู้กำกับ Gwak Jae-Yong ที่เธอได้มีโอกาสแสดงร่วมกับพระเอกน่าทะเล้น Cha Tae-Hyun ความดังของหนังเรื่องนี้นอกจากจะทำให้หนังกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดอันดับ 2 ของปีแล้ว ยังทำให้ Jeon Ji-Hyun ได้มีโอกาสรับรางวัลทางด้านการแสดงในฐานะนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมแห่งปีจากงาน Grand Bell (Daejung) Award ครั้งที่ 39 อีกด้วย
แม้ว่าในปีต่อมาเธอจะไม่มีผลงานทางด้านละครและภาพยนตร์ใหม่ๆออกมา แต่กระแสความคลั่งไคล้ของแฟนคลับเธอกลับไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย ดังจะเห็นได้จากผลงานโฆษณาและ Music Video ที่ทำให้เธอเป็นที่กล่าวขวัญถึงอยู่ตลอดทั้งปี 2002 นั่นเอง

ปี 2003 Jeon Ji-Hyun กลับมารับบทที่แตกต่างจากทุกๆเรื่องที่เธอเคยแสดงมา ในภาพยนตร์ที่ชื่อเรื่องว่า The Uninvited ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการกลับมาร่วมงานแสดงกันเป็นครั้งที่สองระหว่าง Jeon Ji-Hyun กับ Park Shin-Yang จากที่เคยร่วมงานกันมาแล้วครั้งหนึ่งใน White Valentine นั่นเอง The Uninvited เล่าเรื่องราวของวิญญาณของเด็กผู้หญิงสองคนที่คอยตามมารบกวน Jung Woo (Park Shin-Yang) จนกระทั่งเขาได้พบกับ Yun (Jeon Ji-Hyun) หญิงสาวที่เข้ารับการบำบัดอาการทางจิต หลังจากที่ลูกของเธอถูกเพื่อนของเธอฆ่าไปเมื่อปีก่อน Jung Woo ได้ขอร้องไห้ Yun ช่วยค้นหาเหตุผลที่วิญญาณของเด็กทั้งสองคอยติดตามเขา และเมื่อ Yun ตกลงที่จะให้ความช่วยเหลือกับ Jung Woo เรื่องราวความน่าสะพรึงกลัวก็เริ่มต้นขึ้น
 
ปี 2004 Jeon Ji-Hyun จะกลับมาร่วมงานภาพยนตร์กับผกก. Kwak Jae-Young ผู้กำกับฝีมือดีจาก My Sassy Girl และ The Classic อีกครั้ง ในภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า Windstruck โดยภาพยนตร์เรื่อง Windstruck เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ Yeo Kyung-Jin (รับบทโดย Jeon Ji Hyun) ตำรวจหญิง ที่มีแฟนเป็นคุณครูสอนฟิสิกส์ที่ชื่อ Koh Myung-Woo (รับบทโดย Jang Hyuk) วันหนึ่ง Yeo Kyung-Jin เกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เธอต้องฆ่าแฟนของเธอ Koh Myung-Woo โดยไม่ตั้งใจ จนเป็นเหตุให้เขาเสียชีวิต Yeo Kyung-Jin รู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นถึงขนาดที่เธอพยายามจะฆ่าตัวตาย แต่แล้วแฟนของเธอ Koh Myung-Woo ก็กลับมาหาเธออีกครั้งในรูปของวิญญาณที่ยังคงเป็นห่วง Yeo Kyung-Jin และพร้อมที่จะคอยช่วยเหลือให้ตัวของเธอนั้นปลอดภัย

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เรื่องเกาหลีที่หลายคนอยากรู้

ประเทศเกาหลีเป็นคาบสมุทรที่ทอดตัวลงใต้จากศูนย์กลางชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปเอเชีย คาบสมุทรเกาหลีประกอบด้วยพื้นที่ประมาณ 220,000 ตารางกิโลเมตรกับเกาะใหญ่น้อยประมาณ 3,400 เกาะเรียงรายตลอดชายฝั่ง
ณ เวลานี้ประเทศเกาหลีเป็นประเทศเดียวในโลกที่ยังคงถูกแบ่งแยกตามภูมิศาสตร์และลัทธิการปกครอง มีประชากรทั้งหมดประมาณเจ็ดสิบล้านคนทั้งในประเทศเกาหลีเหนือและใต้ และไม่นานมานี้เองที่มีความก้าวหน้าที่เด่นชัดหลายประการในการร่วมมือและรวมประเทศเข้าด้วยกัน

คำว่า "เกาหลี" นี้ใช้อ้างอิงทั้งประเทศเกาหลีเหนือและใต้ ประเทศเกาหลีใต้ ณ ที่นี้ หมายถึงสาธารณรัฐเกาหลีซึ่งมีประชากร 48 ล้านคนในจำนวนนี้ 10 ล้านคนอาศัยอยู่ในกรุงโซลซึ่งเป็นเมืองหลวง กรุงโซลนั้นประการศักดาว่าเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน 600 ปี และในปี 1988 ก็มีชื่อเสียงไปทั่วโลกว่าเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 24 ประเทศเกาหลีเป็นเป้าแห่งความสนใจจากทั่วโลกอีกครั้งเมื่อได้เป็นเจ้าภาพร่วมกับประเทศญี่ปุ่นในการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 2002

ประเทศเกาหลีมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงาม จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาชาวเกาหลีเองได้เรียกผืนแผ่นดินแห่งนี้ว่า คึมซูกังซาน (geumsugangsan) หรือ "ผืนพรมทองแห่งแม่น้ำและภูเขา" ความน่าพิศวงของผืนแผ่นดินนี้ถ่ายทอดผ่านแต่ละช่วงฤดูกาลด้วยทัศนียภาพที่แตกต่างกันไป ภูมิอากาศของเกาหลีซึ่งแบ่งออกเป็นฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวนั้นมีความแตกต่างกันมากทีเดียว คือช่วงฤดูหนาวโดยปกติจะกินเวลายาวนาน ฤดูร้อนสั้นกว่า และฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่สั้นที่สุด ช่วงเวลาฝนตกจะเป็นระหว่างฤดูร้อนในช่วงเดือนมิถุนายน

ชุดแต่งกายตามประเพณีของชาวเกาหลีคือ ฮันบก (Hanbok) ชุดที่ใช้แต่งกายในฤดูหนาวนั้นใช้ผ้าที่ทอจากฝ้ายและกางเกงยาวที่มีสายรัดที่ข้อเท้าซึ่งช่วยในการเก็บความร้อนของร่างกาย ในขณะที่ช่วงฤดูร้อนจะใช้ผ้าป่านลงแป้งแข็งหรือผ้ารามีซึ่งช่วยในการซึมซับและการแผ่ซ่านของความร้อนในร่างกายให้มากที่สุด

อาหารเกาหลีก็ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบรับกับภูมิอากาศ ในภูมิภาคที่ฤดูหนาวกินเวลานาน เทคนิคการถนอมอาหารพิเศษได้ถูกวิวัฒน์ขึ้นเพื่อเก็บรักษาวิตามินในสูตรอาหารประเภทผัก กิมจิเป็นตัวอย่างอันเป็นสัญลักษณ์ของอาหารหมักดอง ความจริงที่ว่ากิมจิจะมีรสเค็มขึ้นถ้าใครนำมันจากทางเหนือที่หนาวเย็นมาสู่ทางใต้ที่อบอุ่นกว่านั้นเป็นเกี่ยวข้องกันมากกับลักษณะของอากาศ

อิทธิพลของภูมิอากาศยังบ่งบอกถึงสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันของเกาหลี บ้านแบบเกาหลีจะมี ออนดอล (Ondol) ซึ่งทำปฏิกิริยาภายใต้พื้นเพื่อช่วยเพิ่มความร้อนฤดูหนาว และโดยทั่วไปบ้านจะมีหลังคาต่ำ มีห้องเล็กและผนังหนา มีหน้าต่างและประตูเปิดสู่ภายน้อยซึ่งมักจะทำเป็นสองชั้น บ้านเกาหลีโบราณจะมีห้องโถงเปิดพื้นเป็นไม้ซึ่งสมาชิกในครอบครัวจะใช้เวลาส่วนใหญ่ที่นี่ในช่วงฤดูร้อน ห้องสำหรับอยู่อาศัยนั้นโดยปกติจะอยู่กลางบ้านใหญ่ ห้องรับแขกจะอยู่อีกหลังต่างหาก ห้องครัวก็สร้างเป็นหลังต่างหากและถูกออกแบบให้ใช้งานได้หลายอย่างนอกจากการปรุงอาหารเพียงอย่างเดียว

เป็นเวลาไม่นานมานี้เองที่เศรษฐกิจของเกาหลีได้ถูกปฏิรูปไปเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ปี 1960 เกาหลีได้เปลี่ยนจากเศรษฐกิจแบบเกษตรกรรมเป็นแบบอุตสาหกรรมที่รุดหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการปฏิวัติแปรเปลี่ยนไป การส่งเสริมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การต่อเรือ การคมนาคม และยานยนต์ซึ่งเป็นแบบอย่างของการพัฒนาประเทศไปทั่วโลก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการคมนาคมและสารสนเทศนั้นเกาหลีในวันนี้ยืนอยู่แถวหน้าของโลก

ชาวเกาหลีได้สร้างวัฒนธรรมที่โดดเด่นผ่านช่วงประวัติศาสตร์อันยาวนานและมรดกทางวัฒนธรรมอันเด่นเฉพาะตัวก็สามารถพบได้ตลอดคาบสมุทร ชาวเกาหลีให้คุณค่ากับการเรียนรู้และมีชื่อเสียงมากในการอุทิศตนและความมุมานะอุตสาหะ บางทีอาจเป็นเพราะลักษณะเหล่านี้ก็ได้ที่ทำให้พวกเขาสามารถใช้แรงกระตุ้นทางวัฒนธรรมซึ่งนำมาประยุกต์อย่างถี่ถ้วนกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ

วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ประวัติ อี จุนโฮ


อี จุนโฮ

วันเกิด : 25/01/1990
การศึกษา Ho Won University (Program acting Major)

ผลงาน

- 1 ในสมาชิกวง 2PM
 
 อี จุนโฮ เกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2533 ที่เมืองอิลซัน ประเทศเกาหลีใต้ เขานับถือศาสนาคริสต์ เป็นนักร้องและนักเต้นของวง จบชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนเซวอน ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่อยู่ชั้นปีที่ 2 (พ.ศ. 2552) มหาวิทยาลัยโฮวอน คณะ Boardcasting & Entertainment เอก Program Acting Major เนื่องจากจุนโฮมีความสนใจในด้านการเต้นมาก เมื่อมีเวลาว่างจุนโฮดูดีโอเต้น ฟังเพลงและฝึกแต่งเพลงบ้าง เนื่องจากจุนโฮมีความสนใจในด้านการเต้นมาก และมีความสามารถในการเต้นแบบ Beat Box จนมีการตั้งฉายาเล่นๆว่า Justin Timberlake เมื่อมีเวลาว่างจุนโฮดูดีโอเต้น ฟังเพลงและฝึกแต่งเพลงบ้าง

จุนโฮนั้นมีหน้าตาละม้ายคล้ายกับอดีตศิลปินร่วมค่ายรุ่นพี่อย่างเรน จนมีบางคนตั้งฉายาอย่างไม่เป็นทางการให้จุนโฮว่า "เรนน้อย" นอกจากนี้ยังได้เซ็นสัญญากับบริษัทเจวายพีจากการที่เขาได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ในการประกวดทักษะการเต้นและการร้องเพลงจากในรายการ Super Star Survival ปี 2006 ทางช่อง SBS และเริ่มฝึกงานที่ JYP หลังจากนั้น
ตำแหน่งในวง : ร้องหลัก (Vocalist)

Link : http://korea-center.blogspot.com/

Thanks for : http://th.wikipedia.org

วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ประวัติ ลี ฮโยริ

Lee Hyori (ลี ฮโยริ)

ชื่อเล่น : Cho Ri

บ้านเกิด : Cheongwon, Chungcheongbuk-do, South Korea

ส่วนสูง / น้ำหนัก : 166 cm / 47 kg

กรุ๊ปเลือด : A Group

ศาสนา : คริสต์

การศึกษา : Gukmin University 2 ปี

ครอบครัว : แม่, พ่อ, พี่ชาย 1 คน, พี่สาว 1 คน

ความใฝ่ฝันในวัยเด็ก : อยากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ความสามารถพิเศษ : วาดรูป , การแสดง

ชอบส่วนไหนที่สุดในร่างกาย : ผม

ชายในฝัน : ต้องเป็นคนที่ฉันเห็นครั้งแรกแล้วรู้สึกประทับใจ ถ้าได้แบบ Park Shin Yang ก็ดีเลย!

คติพจน์ : ทำให้ดีที่สุด แล้วเราจะทำได้ในทุกๆสิ่ง

สิ่งที่มีค่ามากที่สุด : ครอบครัว

รักแรก : เกิดขึ้นตอนที่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา ชายคนนั้นชื่อว่า Park Rak Hyun

อาหารจานโปรด : ชอบทุกอย่าง แต่ถ้าให้พิเศษหน่อย จะต้องเป็นขนมปังกรอบโรยหน้าด้วยช็อกโกเลต

สีที่ชอบ : สีขาว

นักร้องในดวงใจ : Mariah Carey , Brandy

แนวเพลงที่ชอบ : Mostly Ballad และ R&B

เปิดตัวในปี : 1998

K Group : หัวหน้าวง Fin.K.L

เข้าวงการครั้งแรกในฐานะสมาชิกของ K-Pop วง Fin.K.L

สังกัด : M-Net Media Entertainment
 

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ประวัติ Lee Min Ho (ลี มินโฮ)


Lee Min Ho (ลี มินโฮ)  
วันเกิด : 22/06/1987

การศึกษา: มหาวิทยาลัย คอนกุ๊ก (Konkuk University)

ครอบครัว: พ่อ,แม่,พี่สาว

ลีมินโฮ เริ่มงานในวงการบันเทิงเกาหลีด้วยการเป็นนายแบบ ก่อนที่จะหันมาเป็นนักแสดง ในปี 2005 กับละครทางสถานีโทรทัศน์ เอ็มบีซีของเกาหลีใต้(MBC) ด้วยบทเล็กๆ ในละครเรื่อง Love Hymm จากนั้นก็เล่นละครเรื่อยมา จนเมื่อเขาได้รับเลือกให้แสดงนำในละครเรื่อง Boys Over Flowers ในปี 2008 โดยเขารับบทเป็นหัวหน้าของ F4 ที่ในเวอร์ชั่นเกาหลีมีชื่อว่า "คูจุนพโย" และในเรื่องนี้เองก็ได้ส่งให้ มินโฮ กลายเป็นดาราที่ดังในชั่วข้ามคืน

ละครโทรทัศน์
 - Boys Over Flowers (2009)

- But I don't know too (2008)

- I Am Sam (2007)

- Mackerel Run (2007)

- Secret Campus (2006)

- Love Hymn (2005)

ภาพยนต์

- Our School's E.T. (2008)

- Public Enemy Returns (2008)

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอตของเกาหลี KARA

KARA (คารา) เกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอตของเกาหลี มีสมาชิก 5 คนประกอบไปด้วย ปาร์คคยูริ หัวหน้าวงผู้เข้มแข็ง ฮันซึงยอน สาวมั่นมากความสามารถ ที่พกพาความสดใสมาเต็มพิกัด จองนิโคล สาวน้อยจากแดนไกลที่แร๊พได้มันไม่แพ้ผู้ชาย คู ฮารา สาวช่างฝันที่ไม่ละความพยายาม คังจียอง สาวน้อยสุดน่ารัก ที่ใคร ๆ ได้รู้จักจะต้องตกหลุมรักในความน่าเอ็นดูของเธอ

วง KARA เดบิวต์ครั้งแรกในวันที่ 29 มีนาคม ปี 2007 กับงานเพลงอัลบั้มแรก Blooming ที่เป็นส่วนผสมของแนวเพลง Funk , Hip-hop , Dance และ Pop โดยส่ง 2 ซิงเกิ้ลสุดฮิต Break It และ If U Wanna ออกมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆให้กับวงการเพลงเกาหลี จนวัยรุ่นทั่วประเทศสามารถจดจำภาพลักษณ์ของวง KARA ได้เป็นอย่างดี กับความสดใสน่ารัก และโชว์ที่มีพลังของพวกเธอ จากนั้นก็กลับมาอีกครั้งกับสมาชิกใหม่ของวงใน 1st Mini Album Rock-Uที่บ่งบอกถึงความน่ารักสดใสของพวกเธอได้เป็นอย่างดี

ปลายปี 2008 KARA ก็ได้ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ที่สดใสกว่าเดิมด้วยการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใสที่มาพร้อมกับมินิอัลบั้มชุดที่สอง Pretty Girl โดยส่งซิงเกิ้ลสุดฮอต Pretty Girl มาสร้างสีสันในช่วงปลายปีให้คึกคัก พร้อมกับพาให้ Pretty Girl ติดชาร์ตเพลงอันดับ 1 ของรายการเพลงชั้นนำของเกาหลี

ในปี 2009 KARA ก็กลับมากับภาพลักษณ์ใหม่อีกครั้งจากสาวน้อยที่สดใสกลายมาเป็นเทพธิดาสุดอ่อนหวาน ที่แปลงโฉมให้ทั้ง 5 สาวดูโตขึ้น สวยใสและบริสุทธิ์ กับซิงเกิ้ลใหม่ Honey และอัลบั้มล่าสุด KARA Revolution ที่ปรับโฉมของทั้ง 5 สาวให้เซ็กซี่ขึ้นอีกครั้ง

การเดินทางมาเยือนเมืองไทยครั้งนี้ของ 5 สาว KARA ก็เพื่อเข้าร่วมโชว์ฟรีคอนเสิร์ต ภายใต้ชื่อว่า "คอนเสิร์ตความสัมพันธ์ไทย - เกาหลี (Thai-Korea s Friends Concert)" ในงาน "มหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย 2552 (Thailand Entertainment 2009)" ซึ่งจัดขึ้น ณ ลานพารค พารากอน เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา โดยสาวๆ ได้ขึ้นโชว์เพลงมัดใจแฟนๆ คามีเลีย ได้อยู่หมัด

เนื่องในโอกาสที่พวกเธอเดินทางมาเยือนเมืองไทยเป็นครั้งแรก สาวๆ ก็ไม่พลาดที่จะเปิดตัวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนชาวไทย โดยจัดขึ้น ณ ห้อง S Club สยามเซ็นเตอร์ ในเวลา 17.15 น. ก่อนที่สาวๆ จะเตรียมตัวโชว์คอนเสิร์ตในเวลาต่อมา ซึ่งสาวๆ วง KARA พกความสดใสมาเต็มพิกัดเรียกได้ว่ากวาดรอยยิ้มของทุกคนๆ ที่อยู่ในงานนี้ได้เลย ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับสาวๆ วงนี้กันดีกว่า
 
Link ; http://korea-center.blogspot.com/
 
Thanks for : http://jkdramas.com/

วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2553

อัพเดทแต่งหน้า เทรนด์เกาหลี สวยใสสุดๆ

อัพเดทแต่งหน้า เทรนด์เกาหลี

วินาทีนี้ เทรนด์ตาคม กลมโต เด่นเด้ง สไตล์สาวเกาหลี กำลังมาแรงสุดๆ ตามกระแสฮิตของซีรีส์ แดนกิมจิ อยากสวยใสคิกขุแบบสาวเกาหลีโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม มีเทคนิคง่ายๆจาก “โคว จาอิม” เมกอัพอาร์ตทิสต์ประจำแบรนด์ ETUDE HOUSE เครื่องสำอางชั้นนำสัญชาติเกาหลี มาอัพเดททันอกทันใจ

เคล็ดลับสำคัญของการแต่งหน้าให้ได้ลุคแบ๊วๆแบบสาวเกาหลี ต้องเน้นความเป็นธรรมชาติ ประเภทแต่งให้ดูเหมือนไม่ได้แต่ง โดยขั้นแรก เริ่มจากการเตรียมผิวหน้าให้เรียบเนียนด้วยการลงรองพื้น วิธีเลือกรองพื้นให้เหมาะกับผิวหน้า ควรใช้ 2 เฉดสีผสมกันให้เข้มกว่าสีผิวหน้าจริงหนึ่งโทน จะทำให้ได้ผิวหน้าที่เรียบเนียนดูธรรมชาติมากๆ ส่วนใครมีรอยแผลเป็น หรือรอยบวมใต้ตา แนะนำให้แต้มคอนซีลเลอร์ช่วยปกปิดความบกพร่อง โดยค่อยๆกดและเกลี่ยไปให้ทั่วบริเวณนั้นๆ

สาวไทยส่วนใหญ่จะมีโครงหน้าคล้ายกับสาวเกาหลี คือรูปหน้ากลม และจมูกค่อนข้างแบน ลักษณะแนวการลงแป้งและรองพื้น จึงควรเริ่มจากบริเวณทีโซน แล้วกระจายไปยังบริเวณกรอบหน้าด้านข้าง เพื่อเป็นการสร้างมิติให้ใบหน้า หลังจากลงรองพื้นเรียบร้อยแล้ว ควรลงแป้งฝุ่นทับทันที โดยเลือกใช้แป้งฝุ่นแบบโปร่งแสง และสีสว่างกว่าจริงเล็กน้อย แบบเดียวกับที่ดาราเกาหลีกำลังนิยม จะช่วยให้ใบหน้าไบรท์ขึ้นทันตาเห็น
การแต่งแต้มจุดเด่นบนใบหน้าก็เป็นขั้นตอนสำคัญ ควรเริ่มจากคิ้วเป็นจุดแรก โดยการแต่งคิ้วสไตล์เกาหลี จะเน้นรูปทรงธรรมชาติ ไม่เป็นเส้นเล็กหรือโค้งโก่ง เพราะทำให้ดูแก่กว่าวัย คิ้วรูปทรงตรงจะดูอ่อนวัยและเป็นธรรมชาติมากกว่า ขณะที่การเติมสีสันบนใบหน้า ควรเลือกสีอายแชโดว์ให้เข้ากับสีผิวหรือสีขนตาดำ โดยใช้ทั้งหมด 3 สี ไล่ตามเฉดโทนอ่อนสุดไปถึงเข้มสุด ถ้าอยากให้ตาสวยคมชัดขึ้น ต้องเขียนขอบตา และใส่ ขนตาปลอมเป็นช่อๆ

สำหรับแก้มและปาก การแต่งหน้าสไตล์กิมจิจะไม่ค่อยเน้นเท่าไหร่ แค่ใช้บรัชออนสีชมพูหรือพีชอ่อนๆ และทาลิปกลอสใสๆปิดท้าย ก็ดูดีเข้าคอน-เซปต์แล้ว

Link : http://korea-center.blogspot.com/

Thanks for : http://women.mthai.com/

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ประวัติซีวอน รูปซีวอน ถูกใจคอเกาหลี ^-^

วันนี้มีรูปหนุ่มหล่อเกาหลีมาฝากทุกคนกันนะ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ซีวอน หนุ่มหล่อเกาหลีคนนี้ วันก่อนเราได้นำประวัติซีวอนมาฝากกันไปแล้ว วันนี้มาเต็มอิ่มกับรูปซีวอนกันนะคะ


ประวัติดารา รูปดารา ซีวอน

ประวัติดารา รูปดารา ซีวอน

ประวัติดารา รูปดารา ซีวอน

ประวัติดารา รูปดารา ซีวอน

ประวัติดารา รูปดารา ซีวอน

ประวัติดารา รูปดารา ซีวอน

หล่อทุละแป้งเลยจริงๆค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วันสำคัญในเกาหลี ( น่ารักดีค่ะ )

คนไทยเองก็มีวันพิเศษมากมาย สงกรานต์ ปีใหม่ เข้าพรรษา ออกพรรษา และอีกมากมาย สงสัยเหลือเกินค่ะว่า คนเกาหลีนี้ เขาจะมีวันพิเศษของเขากันบ้างมั้ยน๊า

คนเกาหลีจะถือเอาวันที่ 14 ของทุกเดือนเป็นวันพิเศษ แต่ไม่ใช่วันหยุดนะ ไม่ต้องอิจฉากันค่ะ อิอิ  ดูแปลกดี เลยเอามาฝากกันค่ะ

14 มกราคม เป็นวัน Diary Day ซึ่งเป็นวันที่คู่รักจะมอบสมุดไดอารี่ให้แก่กัน ดูน่ารักโรแมนติกเลยทีเดียว คนไทยอย่างเราก็เลียนแบบได้นะคะ ไม่ว่ากัน

14 กุมภาพันธ์ เป็นวัน Valentine's Day วันแห่งความรักอย่างที่รู้ๆกันอยู่ใช่ล่ะค่ะ วันนี้คู่รักฝ่ายหญิงจะเป็นคนมอบช็อกโกแลตให้กับฝ่ายชาย (อ้าว ไหงงั้นล่ะ อิชั้นไม่ยอม 555)

14 มีนาคม เป็นวัน White Day วันนี้ฝ่ายชายจะมอบช็อกโกแลตคืนให้ฝ่ายหญิงละ ( อ่อ เริ่มยุติธรรมล่ะ)

14 เมษายน เป็นวัน Black Day เป็นวันสำหรับผู้ที่ยังไม่มีคนรักจะมารวมตัวกันเพื่อกินก๋วยเตี๋ยวเส้นสีดำด้วยกัน - -"(เหมาะกับเจ้ที่สุดเลยอ่ะวันนี้ -_-)

14 พฤษภาคม เป็นวัน Yellow Day วันสำหรับผู้ที่ยังไม่มีคนรักแล้วพลาดโอกาสไม่ทันได้กินก๋วยเตี๋ยวเส้นสีดำในวัน Black Day ( ยังคงตามมาหลอกหลอน) คนเหล่านี้ก็จะมารวมตัวกันกินข้าวราดแกง(คาดว่าน่าจะเป็นสีเหลืองนะ เลยเรียก Yellow Day) นอกจากนี้ยังเป็นวันที่คู่รักมอบดอกกุหลาบให้แก่กันอีกด้วย

14 มิถุนายน เป็นวัน Kiss Day วันที่คู่รักจุมพิตกัน เพื่อยืนยันความรักที่มีต่อกัน

14 กรกฏาคม เป็นวัน Silver Day วันที่คู่รักแลกแหวนเงินกัน เพื่อเป็นสัญญาแห่งอนาคต

14 สิงหาคม เป็นวัน Music Day วันที่คู่รักมอบเทปเพลงรักให้กันและกัน

14 กันยายน เป็นวัน Photo Day วันที่คู่รักถ่ายภาพร่วมกัน เพื่อเป็นที่ระลึกถึงความรักของตน

14 ตุลาคม เป็นวัน Wine Day วันที่คู่รักดื่มไวท์ด้วยกัน

14 พฤศจิกายน เป็นวัน Hug Day วันที่คู่รักแสดงความรักด้วยการกอดกัน นอกจากนี้ยังเป็นวัน Movie Day อีกด้วยหรือวันที่คู่รักจูงมือพากันไปดูหนังอีกด้วย

14 ธันวาคม Money Day วันที่คู่รักใช้เงินซื้อของหรือใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยให้กับคนรักของตน

วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ซื้ออะไรดี ถ้าไปเกาหลี

สวัสดีค่ะชาว blog : Korea-center ทุกคน รู้มั้ยเอ่ย ว่าคำถามยอดฮิตเมื่อคนเราจะเดินทางไปต่างประเทศคืออะไร ไม่ต้องสงสัยกันเลยค่ะ ทุกคนย่อมคิดว่า จะซื้ออะไรดีหนอ ใช่มั้ยล่ะค่ะ สำหรับวันนี้เราจึงมีข้อมูลสุดฮอต ซื้ออะไรดี ถ้าไปเกาหลี มาฝากกันค่ะ เผื่อหนุ่มๆสาวๆคนไหนชีพจรลงเท้า มีโอกาสเดินทางไปเกาหลีกัน จะได้ไม่ต้องคิดมาก ปริ๊นท์ลิสต์นี้ไป รับรองสบายหายห่วงค่ะ




1. เครื่องสำอางแบรนด์เกาหลี อันนี้เป็นสิ่งแรกที่คิดได้เลยละคะ คนไทยส่วนใหญ่ก็อุดหนุนเครื่องสำอางเกาหลีกันอยู่แล้ว ถ้ามีโอกาสเยือนเกาหลีทั้งทีมีหรือจะพลาด!!! ซื้อฝากตัวเอง ซื้อฝากเพื่อน ซื้อฝากแฟน ก็เก๋ๆกันไป สำหรับราคาบางยี่ห้อถูกกว่าที่ไทยเกือบครึ่งเลยทีเดียว แบรนด์อะไรกันบ้างลองเลือกดูเลยค่ะ ถูกใจแบรนด์ไหนก็ซื้อโลดเลยจ้า Skin food, Etude, The face shop, Laneige, และอีกมากมาย

2. เสื้อผ้าเด็กเกาหลี อันนี้ขอบอกว่าน่ารักมากๆ จะเห็นได้ว่าเสื้อผ้าเกาหลีของเราๆก็น่ารักซะไม่มี ยิ่งเป็นเสื้อผ้าเด็กสไตล์เกาหลีแล้วล่ะก้อ น่ารักสุดๆ ขอแนะนำซื้อช่วงลดราคาค่ะ จะได้ของน่ารักแต่ราคาถูก ถูกใจสาวนักช็อปแน่นอน

3. ส่าหร่าย สาหร่ายแห้งของทานง่าย ซื้อฝากใครก็อร่อย กรุบกรอบ เก็บไว้ได้นาน ที่สำคัญ ไม่หนัก ขนง่ายค่ะ

4. พริกแดงเกาหลี เผื่อพ่อบ้านแม่บ้านท่านไหน อยากจะลองทำกิมจิทานดู หลังจากไปเยือนแดนกิมจิมา ก็ซื้อมาได้ไม่ว่ากัน แต่แอบบอกนะคะ ว่าที่ไทยก็มีขายค่ะ แต่ถ้าใครรู้สึกว่าดูไม่อินเตอร์ก็ขนมาจากเกาหลีก็ได้ไม่ว่ากัน

5. เห็ดแห้ง ที่เกาหลีมีสารพัดเห็ดค่ะ สาวๆหนุ่มๆท่านไหน ที่ชอบทานเห็ดก็หาซื้อกันได้ไม่ยากค่ะ

6. โสมเกาหลี ของฝากคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย บำรุงกันได้เต็มที่เลยค่ะ

7. กิมจิ มาเยือนแดนกิมจะซักที จะไม่หยิบติดไม้ติดมือมาก็กระไรอยู่ใช่มั้ยล่ะค่ะ ที่โน่นมีให้เลือกหลายแบบ หลายยี่ห้อ อย่าลืมกันล่ะค่ะ

8. ช้อนและตะเกียบ ก็เป็นของฝากแนวของที่ระลึกนะคะ ใครสนใจของพวกนี้ก็หาซื้อมาฝากเพื่อนๆได้ค่ะ

9. ขนมขบเคี้ยว หรือ ช็อคโกแลตต่างๆ ก็เป็นของฝากที่นักท่องเที่ยวที่ไปเกาหลีนิยมซื้อกันเช่นกันค่ะ

10. เสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลี สุดท้าย ท้ายสุด สำหรับสาวนักช็อปที่ชอบแต่งตัวสไตล์เกาหลี ก็อย่าพลาดอัพเดทเทรนด์ให้สวยเด้งกันไปเลยค่ะ

ใครมีโอกาสได้ไปก็อย่าลืมเอาลิสต์นี้ไปด้วยนะคะ รับรองได้ของฝากถูกใจกันอย่างแน่นอนค่ะ

วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553